“ความล้มเหลว” เครื่องวัดความสำเร็จของคนจริง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครสักคนจะก้าวผ่านความล้มเหลวในชีวิต ถึงแม้เมื่อวันหนึ่งจะสามารถผ่านอุปสรรคไปได้แล้วมองย้อนกลับมา ก็ไม่มีวันลืมรสชาติชีวิตที่ต้องต่อสู้ในวันที่ความหวังดูจะเลือนรางก็ตามที เวลาที่เราอ่านชีวประวัติหรือตำนานความสำเร็จของบุคคลต่าง ๆ เราก็ได้เพียงแต่อ่านด้วยความอัศจรรย์ใจว่าเขาช่างมีบุญวาสนา หรือช่างโชคดีที่ชีวิตแม้พลิกผันให้ต้องตกต่ำ แต่ก็สามารถยืนหยัดต่อสู้จนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่ากว่าที่ชีวิตจะเดินทางมาถึงจุดนี้ต้องอดทนและฝ่าฟันอะไรมาบ้าง บางคนล้มแล้วล้มอีก ล้มเป็นสิบ ๆ รอบ ต้องใช้กำลังใจมากมายแค่ไหนที่จะกอบกู้และยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคนานับประการมาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
แม้จะไม่ทุกคนที่ต้องผจญกับความโหดร้ายของโลกใบนี้ หรือต้องอดทนกับโชคชะตาที่เล่นตลกกับชีวิตเราอยู่เสมอ แต่ทุกคนก็ต้องย่อมเจอกับความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง บางคนเกิดมายากลำบาก มรสุมชีวิตเข้ามาไม่หยุดหย่อน แต่ก็ยังรับมือไหวยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง แม้จะมีอารมณ์อ่อนไหวหรือท้อถอยบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็สามารถดึงจิตใจให้กลับมาต่อสู้ได้อีกครั้ง สำหรับบางคนไม่สามารถอดทนรับต่อปัญหาชีวิตใหญ่ ๆ ได้ ไม่มีวิธีรับมือกับความทุกข์ที่ถาโถม หลายครั้งเราจึงได้ยินข่าวคนฆ่าตัวตาย นั่นแปลว่าเขาเลือกตัดปัญหาโดยไม่ต้องแก้ คือตัดจบเลยเพราะจิตใจอาจไม่สามารถแบกรับความเจ็บปวดหรือความทุกข์ได้ ไม่สามารถยอมรับความล้มเหลวในชีวิตได้ อย่าลืมว่าคนเรานั้นมักจะมองว่าปัญหาของเรายิ่งใหญ่กว่าปัญหาของคนอื่นเสมอ บางทีถ้าเราลองมองไปรอบ ๆ ตัวเรา คนที่อยู่รอบ ๆ เราเขาอาจจะมีปัญหามากกว่าเรารุนแรงกว่าเราก็ได้ แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ และยังมองว่าวันนี้ยังดีเท่าไหร่ที่ยังมีลมหายใจไว้ต่อสู้กับปัญหา เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่เราท้อหรือหมดกำลังใจ ลองเปิดใจรับฟังหรือมองคนที่อยู่รอบข้าง ทุกคนต่างก็ดิ้นรนแก้ไขปัญหาของตัวเองทั้งนั้น เราจึงไม่ได้เป็นคนแปลกประหลาดตรงไหนที่จะพบกับปัญหาและอุปสรรค หรือพบกับความล้มเหลว มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคนต้องพบเจอและต้องผ่านมันไป
บางคนล้มเหลวเรื่องงาน บางคนล้มเหลวเรื่องความรัก บางคนล้มเหลวเรื่องเงิน บางคนล้มเหลวเรื่องครอบครัว และหลายคนล้มเหลวทุกเรื่อง สาเหตุแห่งความล้มเหลวของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันไป การที่คนเราจะล้มเหลวในเรื่องใด มันต้องประกอบไปด้วยปัจจัยมากมายที่เข้ามาในช่วงจังหวะนั้น รวมถึงประสบการณ์ชีวิตของเราที่ผ่านมา บางทีปัจจัยที่เข้ามากระทบอาจจะเป็นตัวเราเอง คนรอบข้าง หรืออาจจะไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เป็นสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้ หรือเกี่ยวพันกันทั้งหมดก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นทุกคนย่อมมีโอกาสพลาดผิดกันไปได้เสมอ เพียงแต่เมื่อผิดพลาดไปแล้วเราจัดการกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไร แน่น่อนว่าแต่ละคนย่อมมีวิธีรับมือแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็ขอให้จงตั้งใจและมั่นใจในทางเดินทางเลือก ไม่มีสิ่งใดการันตีได้ว่าสิ่งที่เราเลือกนั้นดีหรือไม่ดี ถูกหรือผิด จนกว่าเราจะได้เดินไปสัมผัสมันด้วยตัวเอง และสิ่งนี้เองที่เรียกว่า “ชีวิต” การที่เราได้ใช้ชีวิตนั่นก็หมายถึงเราได้ลองถูกผิดด้วยตัวเอง บางอย่างไม่จำเป็นต้องลองเพราะเราก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี และมีตัวอย่างให้เห็นก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปลอง บางอย่างเป็นอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตที่เราอยากทำ ไม่ทำให้ตัวเองหรือใครเดือดร้อน ก็ลองทำ การเปิดใจเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ก็นับว่าเป็นการเพิ่มแรงจูงใจในการใช้ชีวิต อย่ากลัวว่าจะล้มเหลว เพราะถ้าเรารู้จักตัวเองดีพอว่าจะสามารถรับมืออย่างไรถ้าต้องผิดหวังหรือพบกับความล้มเหลว เราก็สามารถทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้ในชีวิต และอาจจะประสบความสำเร็จในแบบที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้
จริง ๆ แล้ว ความล้มเหลวในชีวิตเป็นสิ่งวัดว่าเราได้เดินทางมาถึงอีกจุดหนึ่งของชีวิต เป็นสิ่งที่วัดว่าบนทางเดินแห่งชีวิตมีโชคชะตากำหนดบ้าง ตัวเราเลือกเองบ้าง เรานั้นต่างก็ได้ผ่านทั้งทุกข์และสุขได้แก้ปัญหาเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ คล้ายกับว่าเราผ่านบทดสอบของชีวิตมาได้ระดับหนึ่ง ซึ่งวัดความสำเร็จของเรา และใช่หากวันนี้เราอาจจะสำเร็จในบางเรื่อง บางเรื่องมันอาจจะยังไม่สำเร็จ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่สอนให้เราได้รู้ว่าวิธีที่เราใช้เดินทางมานี้มันไม่ใช่หนทางสู่ความสำเร็จ ก็ต้องลองวิธีใหม่และวิธีใหม่ที่เราลองก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จได้อีก ก็ต้องลองหาแนวทางหรือหนทางใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ วนเวียนไปแบบนี้จนกว่าเราจะพบทางออกได้ ไม่มีใครบอกได้ว่าเราต้องล้มอีกกี่ครั้งจึงจะยืนหยัดได้อย่างมั่นคง บางคนกว่าจะยืนได้ก็ครึ่งค่อนชีวิต แต่จงมั่นใจว่าทุกครั้งที่ล้ม เราจะลุกขึ้นใหม่เสมอ ขอเพียงแต่เราให้อภัยและให้โอกาสตัวเองได้ลุกขึ้นสู้ เชื่อว่าความสำเร็จต้องอยู่ไม่ไกลแน่นอน